แตกต่างอย่างลงตัว น่าจะเป็นคำจำกัดความที่เหมาะกับคู่ของคุณชลธิศ (ซี) บุญชม และคุณพัชรา (นิด) นวลน้อย คุณซีเติบโตในครอบครัวนักธุรกิจแอมเวย์ ส่วนคุณนิดที่บ้านไม่เห็นด้วยกับการทำธุรกิจนี้ ช่วงวัยรุ่นคุณซีใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญ ส่วนคุณนิดมุ่งหน้าสร้างธุรกิจส่วนตัว แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกความต่างกลายเป็นการเติมเต็มที่ลงตัวก็คือ ความรักและความมุ่งมั่นในเป้าหมาย
“บางคนคิดว่าเป็นลูกเพชรจะทำธุรกิจง่าย ผมว่า ‘ไม่’ นะครับ อาจเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่สำเร็จในธุรกิจนี้ และตัวผมเป็นแพลตินัมตั้งแต่เรียนปี 2 ชีวิตก็สบาย เลยไม่รู้ว่าต้องสำเร็จเพิ่มไปอีกทำไม จนมาเจอนิด ผมถึงมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จ เพราะรู้สึกว่าเรามีคนที่ต้องดูแลครับ (ยิ้ม)” คุณนิดเล่าว่า ตั้งแต่เด็กเธอปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตให้เร็วที่สุด “ตอนเรียนมหาวิทยาลัยไม่เคยเที่ยวเล่นค่ะ เลิกเรียนก็ทำงาน มี 4 - 5 ธุรกิจที่ต้องดูแลพร้อมกัน ได้นอนวันละไม่กี่ชั่วโมง จนขับรถหลับใน เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ฉุกคิดว่าต่อให้ขึ้นถึงจุดสูงสุด แต่ถ้าเกิดวิกฤติ ชีวิตก็ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่” คุณนิดจึงเริ่มมองหาความมั่นคงด้วยงานประจำ แต่เส้นชัยกลับยิ่งไกลออกไป “บริษัทปรับเป้าทุกเดือน ทำให้เริ่มทบทวนว่าเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานอย่างเดียว พอลองลิสต์ความฝันก็พบว่า งานประจำไม่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้เลยค่ะ”
เมื่อเห็นว่าธุรกิจแอมเวย์จะทำให้ฝันเป็นจริงได้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจลงมือทำแบบลุยเต็มที่ ใช้เวลาสี่ปีทุ่มเทแรงกาย แรงใจ จนมาถึงเส้นชัยแรก “เรารู้ว่าธุรกิจนี้ไม่มีทางลัด เราก็แค่เดินหน้าและทำสิ่งที่ควรทำครับ” แนวทางในการสร้างความสำเร็จคือ “หนึ่ง เราใช้วิธีตั้งเป้าหมายที่เนื้องาน เพราะถ้าเนื้องานดี ผลลัพธ์จะออกมาดีในที่สุดค่ะ โดยตั้งเป้าหมายทุกเนื้องานเป็นตัวเลขว่าแต่ละวันมีงานอะไรบ้าง ต้องทำวันละเท่าไหร่ ทำให้เรามีวินัย พัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น จนสามารถทำเป้าหมายแต่ละวันได้สำเร็จ ทำต่อเนื่องทุกวันก็ทำให้เราถึงเส้นชัยแล้วค่ะ สองคือ เราเน้นเรื่องการคิดบวกทุกสถานการณ์ค่ะ เชื่อสุดๆ ว่าทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองมากพอ ในกลุ่มเราจะมีคำว่า ‘อยากเป็นต้องได้เป็น’ หมายถึง คุณไม่จำเป็นต้องเติบโตตามสเต็ป ขอแค่มีความปรารถนา คุณก็ไปถึงทุกเป้าหมายที่ตั้งใจได้”
“ปัจจุบันบริษัทแอมเวย์สร้างและพัฒนาระบบทุกอย่างให้พร้อมในการสร้างความสำเร็จ ขอให้ตัดสินใจแล้วลุยเลยครับ” คุณซีบอก “ทุกความฝันของเราเป็นจริงได้ด้วยธุรกิจนี้ค่ะ” คุณนิดยืนยัน “ธุรกิจนี้เป็นโอกาสของทุกคนที่เข้าใจ สิ่งสำคัญคือ ต้องตัดสินใจประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุด จากนั้นเรียนรู้ ปรึกษา และเชื่ออัพไลน์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ สร้างรากฐานธุรกิจให้มั่นคง และเมื่อสำเร็จ คุณจะรู้ว่าความสุขแบบไร้กังวลหาได้จากธุรกิจนี้ค่ะ (ยิ้ม)
สมัคร | มิถุนายน 2549 |
ระดับแพลตินัม | สิงหาคม 2553 |
ระดับทับทิม | พฤษภาคม 2562 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2560 |
ระดับไพลิน | กุมภาพันธ์ 2563 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2563 |
ระดับมรกต | กุมภาพันธ์ 2563 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2563 |
ระดับเพชร | กรกฎาคม 2563 |
8 คือจำนวนปีที่คุณอัทธวัฒน์ (เฟิร์ส) เพิ่มพูลศักดิ์ และคุณชนัญญา (ปอย) สุทธิรัตน์ ห่างหายจากธุรกิจแอมเวย์ คุณเฟิร์สเล่าว่ารู้จักธุรกิจนี้จากเพื่อนสนิทตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 2 แม้จะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่ดี แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจ หลังเรียนจบจึงเลือกเดินบนเส้นทางอาชีพอันหลากหลาย ทั้งขายกระเป๋า ปลูกเห็ด สอนว่ายน้ำ เลี้ยงปลา กระทั่งเดินทางไปล่าฝันยังแดนจิงโจ้ ประเทศออสเตรเลีย พร้อมคุณปอย “ไปที่นู่นทำงานหนักครับ ล้างจาน เป็นเด็กเสิร์ฟ เก็บเงินได้จริงแต่ก็ป่วย เลยตัดสินใจกลับมาเปิดโรงงานโซฟา”
แม้ชีวิตจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแต่ก็ยังห่างจากชีวิตที่วาดฝัน จนเมื่อตัดสินใจเข้าสู่ประตูวิวาห์ ธุรกิจแอมเวย์จึงกลับเข้ามาในชีวิตทั้งคู่อีกครั้ง “ตอนนั้นอ้วนครับ (หัวเราะ) แล้วจะแต่งงานก็เลยเข้าคอร์สลดน้ำหนัก” แต่สิ่งที่ทั้งคู่ได้รับ กลับไม่ใช่แค่รูปร่างและสุขภาพที่ดีขึ้น “เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจจึงตัดสินใจเข้ามาศึกษาและลงมือทำ อาจเพราะเราทำอะไรมาหลายอย่าง พอมาเจอธุรกิจแอมเวย์เลยรู้สึกว่าง่ายมาก ใช้พลังชีวิตเท่าเดิม ใส่แรงในการทำงานเท่าเดิม แต่ผลลัพธ์ที่ได้ต่างจากธุรกิจอื่นที่เราเคยทำมากครับ (ยิ้ม)”
2 คือจำนวนปีที่ทั้งคู่ใช้ในการมุ่งมั่นก้าวขึ้นสู่ระดับเพชร คุณปอยเผยเคล็ดลับว่า “ที่เราสำเร็จได้เร็ว นอกจากเพราะเชื่ออัพไลน์แล้ว เรายังตั้งใจใช้สินค้าจนเห็นผลจริง และความเปลี่ยนแปลงของตัวเรานี่ละค่ะ ที่บอกเล่าเรื่องราวกับผู้คน (ยิ้ม)” เหมือนเสือติดปีก คือคำจำกัดความที่คุณเฟิร์สบอก “ถ้าเราเชื่อมั่นในสินค้า เวลาออกไปทำการตลาดจะง่ายมากครับ เพราะเราเชื่อว่ากำลังนำเสนอสิ่งที่ดี ผมคิดว่ากุญแจสำคัญของความสำเร็จคือ หนึ่ง เราต้องมองว่านี่คือธุรกิจของเรา และสอง ต้องรักสินค้า สองสิ่งนี้สำคัญมากครับ”
ไม่ว่าตัวเลขต่อไปจะเป็นอะไร แต่นับจากนี้เส้นทางของทั้งคู่คือ การมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ “ปอยคิดว่าถ้าเราเริ่มต้นด้วยการศึกษาอย่างจริงจังจนรู้จริงจะทำให้ทำธุรกิจได้ง่ายขึ้นค่ะ เพราะความพิเศษของธุรกิจนี้คือ ไม่ว่าคุณจะเติบโตขึ้นไปถึงระดับไหน แต่เนื้องานยังคงเหมือนเดิม ทุกคนที่ตัดสินใจเข้ามาทำและอยากสำเร็จ ขอให้มั่นใจว่า คุณเลือกไม่ผิด แค่เรียนรู้และทำความเข้าใจให้มากพอ ยังไงก็ไปถึงความสำเร็จได้แน่นอนค่ะ (ยิ้ม)” คุณเฟิร์สบอกว่า “ธุรกิจนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าเรามาไกลมากจริงๆ ตั้งแต่เด็กผมเป็นคนอนาคตไม่ค่อยสดใส จัดว่าร่อแร่ (หัวเราะ) ถึงจะทำมาหลายอย่าง แต่ไม่เคยมีธุรกิจไหนเปลี่ยนชีวิตได้อย่างที่ตั้งใจ แต่พอเป็นเพชร ผมได้เห็นความภูมิใจของแม่ รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง อยากให้ทุกคนที่อยู่ในธุรกิจรู้ว่า เราโชคดีมากที่ได้ทำธุรกิจนี้ ดังนั้น อย่าทิ้งโอกาสครับ ศึกษาให้เข้าใจ ออกไปฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ สร้างความเป็นมืออาชีพ จริงใจในการส่งมอบความสำเร็จให้ผู้คน และตัดสินใจแน่วแน่ที่จะมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ ถ้าคุณมั่นคงกับเป้าหมาย ยังไงก็ประสบความสำเร็จได้แน่นอนครับ”
สมัคร | กุมภาพันธ์ 2553 |
ระดับแพลตินัม | สิงหาคม 2561 |
ระดับทับทิม | มีนาคม 2563 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2562 |
ระดับไพลิน | กุมภาพันธ์ 2563 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2563 |
ระดับมรกต | มิถุนายน 2562 |
ระดับเพชร | กรกฎาคม 2563 |
สำหรับคู่ของคุณวิรัลพัชร (เมย์) และคุณณัฐพัชร (ป้อม) จิราวัฒน์ฉันทัช คำว่า ‘อิสรภาพ’ ในธุรกิจแอมเวย์ไม่ได้หมายถึงเพียงอิสรภาพด้านเวลาและการเงิน แต่ยังรวมถึงอิสรภาพด้านอายุด้วย เพราะแม้จะอยู่ในวัยเกษียณ แต่ทั้งคู่ก็ยังสามารถสนุกกับการทำธุรกิจได้อย่างกระฉับกระเฉงและไร้ขีดจำกัด “คำพูดที่ว่า ธุรกิจแอมเวย์เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่มีคุณค่า เรารู้สึกถึงสิ่งนั้นได้จริงๆ ค่ะ” คุณเมย์บอกด้วยรอยยิ้ม
คุณเมย์และคุณป้อมเริ่มต้นธุรกิจด้วยความคิดที่จะส่งมอบให้ลูกเป็นมรดก “ชอบที่ธุรกิจนี้เป็นมรดกได้ มีสินค้าดี แผนการตลาดยุติธรรม และมอบโอกาสที่เท่าเทียมกันให้ผู้คนครับ” คุณป้อมเผยมุมมอง และเพราะความชัดเจนในเป้าหมาย แม้ครอบครัวคุณเมย์จะไม่เห็นด้วยแต่ทั้งคู่ก็ไม่ปล่อยมือ และยังสามารถพลิกความเห็นต่างด้านลบให้กลายเป็นพลังบวก เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้ต้องรีบมุ่งหน้าสร้างความสำเร็จ
4 ปีผ่านไป คุณป้อมและคุณเมย์จึงเปล่งประกายในฐานะมรกต แต่ขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ธุรกิจก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคุณพ่อคุณแม่ของคุณเมย์ป่วย แต่ในวันนี้ทั้งคู่ได้ตัดสินใจกลับมาเปล่งประกายอีกครั้งในฐานะเพชร คุณเมย์เล่าว่า “ได้เห็นคนที่อยู่ในวัยเดียวกันสำเร็จก็เป็นแรงผลักดันหนึ่งค่ะ อีกแรงผลักดันคือ การที่ได้ช่วยคนในองค์กรให้เขาสำเร็จ ชีวิตเขาดีขึ้น ทำให้เป้าหมายเรากลับมาชัดเจนอีกครั้ง ความเชื่อกลับมาว่าเรามีคุณค่า เราสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่นได้ เราจึงตัดสินใจเป็นเพชร เราอยากเป็นความเชื่อ เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นโค้ชที่จะส่งพวกเขาสู่ความสำเร็จค่ะ”
“ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะก้าวต่อไปเรื่อยๆ ทำองค์กรให้แข็งแรงขึ้น ส่งเสริมผู้คนสู่ความสำเร็จมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาตัวเองมากขึ้นครับ” คุณป้อมบอกความตั้งใจ “ต้องขอขอบคุณบริษัทแอมเวย์ที่ใส่ใจและสนับสนุนทุกด้าน อย่างในช่วงวิกฤตินี้ บริษัทก็มีแผนการตลาดที่ช่วยกระตุ้น สร้างพลัง ทำให้ธุรกิจของเรายังก้าวหน้าต่อไปได้ ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นเสน่ห์ของธุรกิจนี้ คือบริษัทให้เกียรติเราในฐานะหุ้นส่วนมาตลอด ดังนั้น เราก็ต้องให้เกียรติตัวเองในฐานะเจ้าของธุรกิจด้วยการมุ่งมั่นตั้งใจเช่นกันครับ (ยิ้ม)”
ขยัน มุ่งมั่น และอดทน เป็นคำที่ทั้งคู่ยืนยันว่า ต่อให้โลกเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน สามคำนี้ก็จะยังนำทางสู่ความสำเร็จได้แน่นอน “นอกจากนั้นคุณต้องมีเป้าหมายค่ะ ต้องพร้อมที่จะเลือก แลก ลุย เพื่อเป้าหมายที่คุณต้องการ อีกสิ่งสำคัญคือ คุณต้องรู้จักสินค้า ต้องใช้สินค้าจนเกิดความมั่นใจ จนใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์ได้ (ยิ้ม) เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่เลือกเส้นทางนี้นะคะ ขอให้คุณให้เกียรติตัวเองว่า เลือกไม่ผิด และเพื่อยืนยันความคิดนี้ คุณต้องขยัน มุ่งมั่น อดทนภายใต้ความเชื่อเพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมาย เชื่อมั่นในธุรกิจ ในสินค้า ในระบบ ในทีมและในตัวเอง เมื่อคุณเลือกแล้ว คุณเข้าใจตัวเอง เข้าใจธุรกิจ คุณทำได้ และไปถึงเป้าหมายได้แน่นอนค่ะ”
สมัคร | พฤศจิกายน 2541 |
ระดับแพลตินัม | พฤษภาคม 2542 |
ระดับทับทิม | มิถุนายน 2543 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2544 |
ระดับไพลิน | สิงหาคม 2544 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2563 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2545 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2563 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2563 |
เส้นทางธุรกิจของคุณกชพร (จีจี้) ศรีเรืองเดช และคุณสุวิทย์ ศรีษะแก้ว อาจเรียกได้ว่าระหกระเหิน คุณจีจี้ต้องทำงานและส่งตัวเองเรียนตั้งแต่อายุ 13 เป้าหมายในวัยเด็กคือ มีรถมีบ้านและมีเงินล้านแรกให้ได้ก่อนอายุ 20 จึงไม่น่าแปลกที่นอกจากจะทำธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยว อสังหาริมทรัพย์และสถานเสริมความงามแล้ว คุณจีจี้ยังเลือกธุรกิจแอมเวย์เป็นอีกหนึ่งเส้นทางสู่ฝัน “จุดเริ่มต้นคือ ประทับใจสินค้าประกอบกับชอบเปิดโอกาสให้ตัวเอง ถึงจะมีอยู่หลายธุรกิจแต่ก็ยังตัดสินใจทำธุรกิจแอมเวย์ค่ะ (ยิ้ม)” ส่วนคุณสุวิทย์นั้นฐานะทางบ้านยากจนแต่ก็ดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น โดยเข้ามาอาศัยวัดเพื่อเรียนหนังสือและฝันว่า “อยากขี่นกยักษ์ (เครื่องบิน) เที่ยวครับ คนเขาบอกว่าถ้าจบปริญญา ทำงาน เก็บเงินเยอะๆ ก็จะได้ขี่นกยักษ์เที่ยว” ความทรงจำแรกกับธุรกิจแอมเวย์ของคุณสุวิทย์นั้นค่อนข้างติดลบ “มีคนมาชวนบอกว่าทำแล้วรวย แล้วก็พากันทำแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งคู่ (หัวเราะ) ไม่เคยเข้าเซนเตอร์ ไม่เคยศึกษาเรียนรู้ ทำอยู่ 8 เดือน ปรากฏครูบอกว่า เธอจะไม่มีสิทธิ์สอบแล้วนะ ไม่ส่งงาน เวลาเรียนไม่ครบ เลยโกรธธุรกิจนี้มากเพราะทำให้เราเกือบเรียนไม่จบ ไม่ได้ปริญญา ไม่ได้ขึ้นนกยักษ์ หนีเลยธุรกิจนี้ แอนตี้มากครับ (หัวเราะ)”
กามเทพคงขี้เล่นจึงชักนำให้ทั้งคู่มาพบรักกัน หลังตัดสินใจจะร่วมชีวิตด้วยกัน คุณสุวิทย์จึงเพิ่งรู้ว่าคุณจีจี้มีเส้นทางที่มุ่งมั่นคือ ธุรกิจแอมเวย์ ในวันที่ถูกยื่นเงื่อนไขว่า ‘ถ้าเธอไม่เลือกธุรกิจแอมเวย์ ฉันก็จะไม่เลือกเธอ!’ สิ่งที่คุณสุวิทย์ทำได้จึงมีเพียงรีบขับรถมา...กรอกใบสมัคร แต่ก็แอนตี้ธุรกิจนี้ทุกรูปแบบถึง 2 ปี จนเมื่อความฝันอยากขี่นกยักษ์เที่ยวเป็นจริงได้เพราะแอมเวย์ จึงกลายเป็นจุดพลิกมุมมองต่อธุรกิจนี้ของคุณสุวิทย์ และทำให้ทั้งคู่ได้เริ่มสร้างพันธสัญญาใหม่ จับมือเป็นหนึ่งเดียวเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายคือ ความสำเร็จ!
คุณสุวิทย์เล่าว่า “ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกตื่นเต้นมาก ผมจับมือภรรยาแน่นแล้วบอกว่าช่วยตบที จะได้รู้ว่าไม่ใช่ฝัน (หัวเราะ) ต้องขอบคุณภรรยาสุดที่รักและบริษัทแอมเวย์ที่พาผมมาถึงจุดนี้ได้ เราสองคนต้นทุนชีวิตติดลบครับ มิหนำซ้ำหนึ่งคนเห็น หนึ่งคนแอนตี้ จึงยากมากในการเริ่มต้น แต่เมื่อตัดสินใจ เราก็สำเร็จได้ คุณเองก็เช่นกัน ถ้าคุณมีเชื้อเพลิงคือ ความเชื่อ แรงบันดาลใจ และเป้าหมาย แล้วขับเคลื่อนโดยลงมือทำอย่างมืออาชีพ ผมเชื่อว่าทุกคนสำเร็จได้แน่นอนครับ”
ไม่เพียงใช้ความรักชักพาสามีสู่ความสำเร็จ แต่คุณจีจี้ยังใช้ความรักเป็นหลักในการดูแลและนำพาองค์กร “เราดูแลองค์กรเหมือนเป็นครอบครัวค่ะ สามข้อที่บอกเสมอคือ หนึ่ง ระบบทีมต้องเป็นหนึ่งเดียว สอง ต้องใช้ความรักนำพา เมตตา ให้อภัย รับฟัง และยอมรับความต่าง สาม ต้องทำอย่างมีความสุขและสนุกจึงจะสำเร็จค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ธุรกิจนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของคุณแล้ว คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คุณเลือกที่จะทำชีวิตให้ดีและยิ่งใหญ่ได้ด้วยธุรกิจนี้ค่ะ (ยิ้ม)”
สมัคร | กุมภาพันธ์ 2543 |
ระดับแพลตินัม | มีนาคม 2548 |
ระดับทับทิม | พฤษภาคม 2555 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2554 |
ระดับไพลิน | เมษายน 2561 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2561 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2561 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2563 |